ช่วยผมครั้งที่ 12 :
เรย์จิเอาคืน
REIJI
X HARU
กึก !
“ผมสัมผัสคุณบ้างไม่ได้เหรอครับ...ฮารุ
?” จู่ๆผมก็เกิดหน้าร้อนขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
รู้สึกเขินอายขั้นร้ายแรงจนไม่รู้ว่าควรจะเอาหน้าไปซุกไว้ที่ไหน
ตอนนี้ภายในหัวใจมันเต้นรัวเร็วไปหมดจนผมแอบกลัวว่ามันจะหลุดออกมานอกอกยังไงยังงั้น
ถึงผมจะไม่ใช่ผู้หญิง
แต่พอเจอใบหน้าหล่อๆของเขา
น้ำเสียงนุ่มๆมาพูดใส่แบบนี้ผมก็แอบหวั่นไหวเหมือนกันนะราวกับว่ารู้จุดอ่อนว่าควรจะเข้าหาผมยังไง
มันแตกต่างจากที่ทั้งสองคนนั้นเคยทำให้ผม พวกเขาจะทำรุนแรงกับผมก่อนแล้วจึงมาผ่อนลงทีหลัง
ทว่าเรย์จิไม่ได้ทำแบบนั้น
เขาพูดอ้อนให้ผมยอมเอง...
“ได้ไหมครับ ?”
เขาถามแล้วยื่นหน้ามาใกล้ๆจนลมหายใจเป่าอยู่เหนือริมฝีปากผม
ความเย็นยะเยือกทำให้ผมรู้สึกเหมือนว่าร่างกายถูกแช่แข็ง
ไม่สามารถขยับแขนผลักเขาออกไปได้ ยิ่งถูกเขาใช้หน้าดันจนพิงกับหัวเตียง
ผมก็รับรู้ได้ว่าผมต้องไม่รอดแน่ๆเพราะเขาปิดกั้นทางหนีผมไว้หมดทุกทาง “ฮารุ”
“ระ...เรย์จิซัง”
หน้าผมคงแดงมากไม่อย่างนั้นเขาคงไม่แอบยิ้มมุมปาก
ระยะห่างที่น้อยนิดทำให้ผมเห็นได้ไม่ยากว่าเขากำลังทำหน้ายังไง
แววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาทำให้ผมรู้สึกเหมือนว่าตัวเองถูกกลืนกินไปครึ่งหนึ่งแล้วและไม่ว่าจะเลือกทางไหน
ยังไงผมก็โดนกินอยู่ดี “เรย์จิ...ซัง”
เขาไม่พูดอะไรเพียงแค่ประทับริมฝีปากลงมา
รุกเร้าพร้อมกับอาการมึนหัวที่ครอบครองสติผม อยากจะผลักออกแต่ก็ทำไม่ได้
สุดท้ายก็ได้แต่นอนนิ่งๆให้เขาไล้มือไปตามผิวขาวของผม
ปลายนิ้วเย็นเฉียบปลดกระดุมเสื้อผมจนหมดพลางไล้มือลงไปวนแถวกางเกงผม
ร่างผมสะท้านเฮือกเมื่อเขาล้วงมือเข้ามาในกางเกงนอนพร้อมจับส่วนอ่อนไหวที่เริ่มมีปฏิกิริยากับมือเขาขึ้นมาโดยที่เขายังไม่ละริมฝีปากไปจากผม
ลิ้นชื้นกวาดต้อนความหวานและลมหายใจไปจนหมด
หยอกเย้ากับลิ้นผมที่พยายามหลบลิ้นเขาแต่ก็ทำไม่ได้
ไม่นานนักเขาก็ถอนริมฝีปากออกไป หากแต่กลับเลื่อนไปจูบซับที่ลำคอและร่างกายผมแทน
ผมหอบหนักรู้สึกสะท้านเร่าไปทั่วร่างเหมือนคนบ้าที่กำลังจะขาดอากาศหายใจ
จากนั้นเขาก็สร้างรอยแดงประทับไว้ตามตัวผมอย่างรวดเร็ว
“แฮ่ก...อื้อ”
ผมขยุ้มเรือนผมสีดำแน่นเมื่อเขากดจูบบริเวณเชิงกราน
ผมไม่ทันได้รู้ตัวเลยสักนิดว่าถูกเขาถอดกางเกงไปตอนไหน
รู้เพียงแค่ว่าตอนนี้ร่างกายมันยินยอมให้เขาสัมผัสได้โดยไม่สนใจว่านี่มันใช่เวลาที่ควรจะทำไหม
บาดแผลที่เคยได้รับก็เริ่มหายไปบ้างแต่ก็ยังคงทิ้งร่องรอยให้เห็น
เรย์จิลากริมฝีปากไปตามรอยแผลเป็นที่เริ่มจางลงไปบ้างแล้วราวกับว่าต้องการปลอบประโลมผมที่ถูกคนในครอบครัวเขาทำร้ายมาเมื่อไม่กี่วันก่อน
“อ๊ะ....เรย์จิซัง”
“ทนไม่ไหวแล้วสิ”
เขากระซิบก่อนจะถอดแว่นตัวเองออกพร้อมปลดเสื้อนอกจนเหลือแค่เสื้อเชิ้ตด้านใน
แต่แล้วเขาก็หยุดถอดไปก่อนจะพลิกร่างผมให้ขึ้นมานั่งบนตัวเขาแทน “ปลดกระดุมให้ผมหน่อยสิ”
“หะ...หา ?” ผมอุทานตอนที่เขาพูดแบบนั้น
หากแต่เรย์จิกลับไม่สนใจเขาเอื้อมมือมาจับมือผมไว้แล้วจัดการให้ผมปลดกระดุมเขาทีละเม็ด
“บะ...แบบนี้มันบังคับกันนิฮะ ผมไม่ได้สมยอมเลยสักนิด”
“งั้นก็สมยอมซะสิ
ตอนนี้ถอยกลับไม่ได้แล้วนะ”
“คนบ้า” ผมทุบอกเขาไปทีหนึ่งแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
ไม่วายถูกเขาดึงให้กลับมาปลดประดุมให้เขา ยอมรับเลยว่าผมตื่นเต้นมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมอยากจะลองทำจริงๆแม้ว่าผมจะปฏิเสธทุกคนที่จะทำแบบนี้กับผม
มันช่วยไม่ได้ ยังไงผมก็ไม่มีอะไรให้เสียแล้ว อีกอย่างใจมันก็เรียกร้องไปเองด้วย
ร่างกายมันก็ไม่ยอมขัดขืนซะด้วยสิ
ทีแบบนี้ล่ะไม่หนี ทีเรื่องอื่นล่ะหนีจัง
!
“อื้อ เฉยๆสิฮะ”
ผมหลับตาข้างขวาลงเพราะเรย์จิกดจูบที่ตรงนั้นในขณะที่ผมกำลังปลดกระดุมเสื้อให้เขาอยู่
มือผมสั่นมาก ผมรับรู้ได้ ตอนที่ได้เห็นมัดกล้ามขาวสะอาดมันก็ทำให้ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่
ตอนที่มีอะไรกับชูหรืออายาโตะ ผมแทบจะไม่สนใจเรื่องบอดี้พวกเขาเลยสักนิด
แต่พอมาอยู่ในอารมณ์แบบนี้ที่ถูกปั่นป่วนให้ลองดี ผมกลับสนใจร่างกายเขามากกว่าใคร
เขาต้องเผลอใส่อะไรลงไปในข้าวแน่ๆ
ไม่อย่างนั้นผมคงไม่บ้าคิดอะไรเพ้อเจ้อขนาดนี้หรอก
หนำซ้ำร่างกายมันก็ร้อนรุ่มผิดปกติ
ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนราวกับว่าถูกยาปลุกเซกส์กรอกปากยังไงยังงั้น...
“อื้อ !” ผมสะท้านเฮือกผวากอดคอเขาไว้แน่นตอนที่เข่สอดนิ้วเข้ามาบิดควานในร่างกายผม
สอดเข้าสอดออกอยู่พักใหญ่เพื่อให้แน่ใจว่าตอนที่เขารุกรานเข้ามามันจะไม่ทำให้ผมเจ็บ
แต่บอกเลยว่าตอนนี้ผมเสียวมากจนน้ำตาเล็ด
เผลอครางกระเส่าตอนที่เขาเจอจุดกระสันในร่างผม “อ๊ะ อ๊า อ๊า”
“น่ารัก”
“อื้อ อา อ๊า” น่าอายมาก ผมได้แต่พูดคำนี้ในใจ รู้สึกอายจนต้องซบบ่าเขาไว้เพื่อปกปิดใบหน้าที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนาของตัวเอง
พยายามเม้มปากเพื่อสะกดกลั้นเสียงน่าอายของตัวเอง
แต่มันก็ไม่ช่วยเท่าไหร่สุดท้ายผมก็ถูกเขาแหย่จนต้องปล่อยให้เสียงน่าอายมันไหลออกมา
“อ๊ะ...อ๊า อ๊า”
เรย์จิรูดรั้งส่วนอ่อนไหวของผม
ใช้ปลายนิ้วไล้วนส่วนปลายให้ผมทรมานเล่น ผมหอบหนักมากพยายามเอาอากาศเข้าปอดแค่ไหน
ก็รู้สึกว่ามันไม่เพียงพอเลยสักนิด ไม่นานนักเขาก็ถอดนิ้วออกไปแล้วรนกางเกงตัวเองลง
จากนั้นก็แทรกกายเข้ามาแทน
“เฮือก !” ผมจิกเล็บลงท้ายทอยเขาระบายความเจ็บที่ได้รับ เรย์จิไม่พูดอะไร
เขาเพียงแค่จูบผมเป็นปลอบโยนเท่านั้น
มือหนากดสะโพกผมให้ลงไปรับตัวตนของเขาที่พยายามจะเข้ามาในร่างของผม “อ๊ะ อ๊า !”
“แน่นมาก” เขากัดฟันและพยายามดันมันเข้ามา ผมสะท้านหอบแรงมากตอนที่เขาดันมาจนสุด “ดี ผ่อนคลายนะครับฮารุ”
“มะ...มันเจ็บนะฮะเรย์จิซัง”
“เขาบอกว่าถ้าคุณเป็นฝ่ายขยับ
มันจะไม่เจ็บมาก” ผมคิ้วกระตุกเล็กน้อยตอนที่เขาพูดแบบนั้นแล้วเลื่อนตัวลงนอนจับผมให้นั่งอยู่บนตัวเขา
แต่ทุกครั้งที่เขาขยับร่างกายของเขามันจะสั่นจนทำให้ผมครางลั่นไปด้วย “ยั่วกันเกินไปแล้ว”
“อ๊ะ อ๊า” ผมครางไม่หยุดตอนที่เขาจับสะโพกแล้วออกแรงขยับให้ผมเคลื่อนไปบนร่างของเขา
ยอมรับว่ามันไม่เจ็บเหมือนช่วงแรกๆ แต่ทำแบบนี้ก็เสียวมากจนร่างกายอ่อนแรงไปหมด
เขายกสะโพกผมแล้วกดทับลงมาราวกับว่าต้องการสอนให้ผมรู้จักวิธีช่วยตัวเอง "อื้ม อ๊า เรย์จิ เรย์จิซัง”
“ดีมากฮารุ ขยับสิ”
ผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรถึงได้ทำตามที่เขาบอก
ร่างกายมันขยับขึ้นลงเข้าออกเป็นจังหวะเนิ่นนาบเพื่อให้คุ้นชินก่อนจะค่อยๆเพิ่มความเร็วขึ้นทีละนิด
เรย์จิพยายามช่วยผมในบางครั้งและนั่นทำให้ผมแทบถึงสรวงสวรรค์
ผมไม่เคยรู้สึกต้องการมากขนาดนี้มาก่อน
จนพอใกล้ถึงฝั่งฝันผมก็ลดแรงตัวเองลงเพราะไม่สามารถทนความเสียวซ่านนี่ได้
ส่งผลให้เรย์จิต้องพลิกกายผมให้นอนราบไปกับเตียงก่อนจะเป็นฝ่ายสาวกายเข้าหาผมแทน
“อ๊ะ อ๊า อ๊า
เรย์จิ...เรย์จิซัง อื้ม”
“อา ฮารุ”
“ผะ...ผมจะ...ไม่ไหวแล้ว”
ผมรั้งไหล่เขาเอาไว้พลางจิกเล็บลงไปเป็นการระบายความเสียวซ่านที่ทำเอาสมองขาวโพลนไปหมด
ในหัวผมแทบคิดอะไรไม่ออก มันเอาแต่ฟังเสียงเนื้อกระทบเนื้อจากช่วงด้านล่าง
ผมรู้สึกอายมากแต่ในขณะเดียวกันผมก็รู้สึกดีมากเช่นกัน “อื้อ
อื้ม !”
“อา ฮารุ อื้อ” ผมปลดปล่อยออกมาอาบเลอะหน้าท้องขาวของเขา
จากนั้นก็สะท้านเร่าเมื่อเขาปลดปล่อยเข้ามาในร่างของผม
เรย์จิหอบเล็กน้อยก่อนจะกดจูบไปทั่วขมับผมอย่างอ่อนโยน “ดีมาก”
“เรย์...เรย์จิ...ซัง”
“มากกว่านี้” เขากระซิบแล้วแทรกกายเข้ามาอีกครั้งเล่นเอาผมถึงกับผวาเฮือกกอดเขาไว้แน่นอย่างรวดเร็ว
“ผมต้องมากกว่านี้ฮารุ”
“อ๊าาา !!!!” ร่างกายผมสั่นไหวไปตามแรงกระแทกของเขาที่รัวเร็วกว่าเมื่อกี้มากจนผมตามแทบไม่ทัน
ได้แต่นอนครางบิดเร่าด้วยความเสียวซ่านอยู่ใต้ร่างของเขา “ชะ...ช้า
ช้าหน่อยเรย์จิ ผะ...ผม อื้อ !”
“อื้ม
ผมห้ามตัวเองไม่ไหวแล้ว” เขาตอบพร้อมสอดลิ้นเข้ามาในปากของผม
ยกร่างผมมากอดเอาไว้ในขณะที่สะโพกยังคงกระแทกเข้ามาในร่างของผมไม่ยอมหยุด
ผมได้ยินเสียงเขาครางอย่างพอใจและนั่นทำให้ผมรู้สึกเหมือนคนบ้าเข้าไปทุกที
ทุกครั้งที่เขากระแทกถี่ๆ
หัวใจผมก็แทบหลุดออกมา
“อื้ม อ๊า อา”
เรย์จิเอื้อมมือไปจับหัวเตียงไว้แล้วสอบสะโพกหาผมรัวเร็วเหมือนทนไม่ไหวเล่นเอาหัวเตียงโยนคลอนไปชนกำแพงดังเสียงกึกๆจนผมกลัวว่ามันจะหักเสียก่อนที่เขาจะเสร็จ
ผมหอบหนักมากหนำซ้ำยังเผลอกดสะโพกรับแรงเขาอีกต่างหากราวกับว่าไม่สามารถควบคุมความอยากของตัวเองได้
ตอนนี้เราสองคนไม่ต่างจากสัตว์ร้ายที่หิวกระหายที่พยายามกลืนกินอีกฝ่ายให้หมดทั้งตัว
ติดตรงเพียงว่าฝ่ายที่ถูกกินมากคือผมนั่นเอง
“อ๊ะ อ๊า
อยะ...อย่าจับตรงนั้น”
ผมกระส่าตอนที่เขาผ่อนแรงลงหากแต่กระแทกเน้นๆให้ตรงจุดกระสัน
หนำซ้ำยังรูดรั้งส่วนแข็งขืนของผมที่ตอบสนองมือเขาได้อย่างดี
ปลายนิ้วเรียวยาวสอดเข้ามาปากหยอกเย้ากับลิ้นผมอยู่นานก่อนจะแลบลิ้นเลียนิ้วตัวเองที่ชุ่มน้ำลายผม
ใครที่มาเห็นคงรู้สึกว่าอีกฝ่ายเชิญชวนมากเหมือนที่ผมคิดแน่นอน
“ระ...เรย์จิซัง อ๊า”
“ฮารุ ฮารุ ฮารุ”
ร่างสูงพร่ำเรียกชื่อผมพลางปาดหยาดน้ำรักที่เปื้อนตัวเขาขึ้นมาชิมก่อนจะส่งทอดให้ผมลิ้มลองผ่านลิ้นชื้นในปากของเขา
ลิ้นของเขาพันเกี่ยวกันจนเหมือนเชือกที่ถูกผูกปมเอาไว้แบบที่ไม่มีวันแก้ออก
ในสมองของผมก็มีแต่ภาพของเขาที่พร่ำบอกว่าต้องการผมมากกว่านี้ “อื้มฮารุ รู้สึกดีมากเลย”
“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก”
“มากกว่านี้” ผมจิกผ้าปูที่นอนจนมันยับยู่ยี่แทบขาดคามือเพราะร่างสูงหยัดกายเข้าออกเร็วกว่าเดิม
ไม่รู้ว่าไปเอาแรงเพิ่มมากจากไหนถึงได้ยัดใส่ร่างผมไม่ยั้งขนาดนี้ “อา”
“แฮ่ก”
“อื้ม !”
“อ๊า !” ไม่นานนักผมก็ปลดปล่อยออกมาอีกครั้งก่อนจะทิ้งตัวลงนอนหอบอยู่บนเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน
สะท้านเร่าอย่างเร่าร้อนตอนที่เรย์จิสวนกายเข้าออกไม่ยอมหยุด
กว่าเขาจะปลดปล่อยออกมาผมก็แทบสิ้นสติแล้ว
ไม่เคยรู้สึกดีมากขนาดนี้มาก่อน
หนำซ้ำยังใช้แรงเยอะจนอยากจะบ้าตายอีกต่างหาก
ไม่คิดเลยว่าคนนิ่งๆหงิมๆอย่างเรย์จิซัง จะซ่อนกำลังไว้มากมายขนาดนี้
มิน่าล่ะถึงต้องพูดกับผมดีๆ ที่แท้ก็อยากลองชิมผมหนักๆแบบนี้นี่เอง
“พอแล้วฮะ” ผมดันเขาออกตอนที่เขาทำท่าจะก้มมาจูบผม ตอนนี้ผมระบมไปทั้งตัว
เหนื่อยมากแล้วก็เมื่อยมากด้วย “พอแล้ว”
“เพิ่งสองรอบเอง”
“แต่เรย์จิซังใส่แรงขนาดนั้น
แค่สองรอบก็เหมือนคูณสิบรอบแล้วฮะ”
ผมพองลมในแก้มน้อยๆเป็นการแสดงให้เห็นว่าผมไม่พอใจที่เขาใส่แรงกับผมขนาดนี้
ร่างสูงส่ายหัวนิดๆก่อนจะถอดตัวตนเขาออกไปผมเลยพลิกกายคว่ำใส่เพื่อไม่ให้เขาใช้ริมฝีปากมารุกรานผมได้
แต่บทจะดื้อเรย์จิเขาน้อยกว่าใครที่ไหน ผมพลิกคว่ำไปเขาก็กดจูบกับแผ่นหลังผมอยู่ดี
“อื้อ พอแล้ว”
“ช่วยไม่ได้นะครับ
คุณหวานเอง”
“ไม่เห็นจะหวานตรงไหน”
“หวานสิ” เขาตอบพร้อมชะโงกหน้ามาจูบปากผม
ทำแบบนั้นซ้ำๆจนอารมณ์ผมเริ่มกลับมาอีกครั้ง
เพียงแค่ผมเลือกที่จะนอนคว่ำเพื่อไม่ให้เขาแกล้งผมไปมากกว่านี้
แต่เรย์จิน่ะเขาฉลาดกว่าใครดีเพราะงั้นเขาสัมผัสได้อยู่แล้วว่าผมมีอารมณ์ “เชิญชวนเองนะ”
“ปละ...เปล่านะฮะ อื้อ !” ผมสะท้านอีกครั้งตอนที่เขาแทรกกายเข้ามาแม้ว่าผมจะนอนคว่ำหน้าอยู่
ร่างสูงยกสะโพกผมให้สูงขึ้นก่อนจะเริ่มสาวกายอีกครั้ง “อ๊ะ
อ๊า เรย์จิ เรย์จิ ไม่”
“ไม่หยุดง่ายๆหรอกนะครับ”
“ตะ...แต่ แต่...”
“ไม่ต้องห่วง
นี่เป็นวิธีการรักษา” เขาพูดพร้อมกอดร่างผมไว้แน่นชะโงกหน้าลงมาจนแก้มเราแนบกัน
“ผมรู้ว่าคุณชอบการรักษาแบบนี้
ผมจะทำให้คุณหายดีแบบปลิดทิ้งเลย”
“มะ...ไม่ อ๊าาาาา !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
ไม่ว่าจะเป็นใครสุดท้ายก็แพ้พ่ายให้กับแรงปรารถนาของตัวเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น