กึก !
“วะ...วิปเปอร์
ผม..อื้อ !” ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไร
วิปเปอร์ก็วางผมลงให้ยืนบนพื้นก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากลงมาอย่างหนักหน่วงเล่นเอาผมตกใจเผลอเผยอปากให้เขาสอดลิ้นเข้ามาเก็บเกี่ยวความหวานได้อย่างง่ายดาย
ความร้อนผ่าววูบไหวไปทั่วร่าง ผมระบมไปทั้งปากเพราะวิปเปอร์แทบไม่ยั้งแรงเลย
มือหนาประคองใบหน้าผมสลับกับรวบร่างผมไปกอดเอาไว้
กลิ่นกายที่ผมไม่ได้กลิ่นมานานกำลังตลบไปทั่วตัวของผม
ร่างสูงโถมร่างใส่ผมจนเราล้มลงไปนอนบนเตียง
ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงจูบผมไม่หยุดราวกับว่าเขากระหายจูบของผมยังไงยังงั้น
หัวใจของผมเต้นรัวเร็วมาก
มันแทบจะกระเด็นออกมาอยู่แล้ว !
“วะ...วิปเปอร์ อะ...อือ”
ผมครางอือในลำคอเมื่อเขาเลื่อนริมฝีปากมาลงรอยบนคอของผมพร้อมกับที่มือของเขาทึ้งเสื้อผมจนมันขาดคามือ
ผมตกใจกับการกระทำรุนแรง วิปเปอร์เหมือนห้ามอารมณ์ไม่อยู่
เขารีบปลดชุดตัวเองออกรั้งให้หัวผมไปวางอยู่บนหมอน
ก่อนจะทาบร่างลงมา
“ชะ...ช้าหน่อย
ผะ...ผมหายใจไม่ทัน” ผมบอกเขาเสียงสั่น
ร่างกายสั่นไปหมดด้วยความตื่นเต้น
ผมรู้สึกว่าวันนี้วิปเปอร์ดูรีบร้อนกว่าครั้งไหนๆ
อาจเป็นเพราะเขาไม่ได้แตะต้องผมมานานเลยทำให้เขาทรมานไม่ต่างจากผมก็เป็นได้
จมูกคมก้มลงสูดดมกลิ่นอายผมซ้ำๆ
ใบหน้าผมร้อนวูบวาบเมื่อเขากดริมฝีปากลงตรงหัวใจของผม
เขาคงได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงของผมแน่ๆ เพราะขนาดไม่ก้มลงไปหามัน
มันยังส่งเสียงเรียกเขาดังออกมาเลย
ให้ตายสิ
จนมุมแบบนี้ มันสถานการณ์แบบไหนกัน !?
“วะ...วิปเปอร์
ผะ...ผมเจ็บนะ อึก !”ผมนิ่วหน้าเจ็บตอนที่เขาเม้มริมฝีปากที่ซอกคอของผม
ดูก็รู้ว่ามันจะต้องเกิดรอยแดงแน่ๆ ก็เขาทำแรงขนาดนั้น “ไม่เห็นต้องรีบร้อนขนาดนี้เลย
ผมไม่ได้จะหายไปไหนซะหน่อย”
กึก !
“ผม...ขอโทษนะครับนายน้อย”
“อะ...!”
“ผมผิดเอง” ผมขมวดคิ้วไม่เข้าใจมองร่างสูงที่ผละใบหน้ามามองตาผม
นัยน์ตาสีเดียวกับผมกำลังแสดงความเศร้าออกมา “ผมขอโทษที่ปล่อยนายน้อยไว้คนเดียว
ขอโทษที่ไม่ใส่ใจนายน้อยมากพอ ขอโทษที่ทำตัวแย่ ขอโทษสำหรับทุกอย่างนะครับนายน้อย”
“วิปเปอร์...”
“เพราะผมรักนายน้อยมาก
ผมเลยไม่อยากให้นายน้อยมาเจอกับสภาพจิตใจผมที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
ผมกลัวว่าจะเผลอทำร้ายนายน้อย”
ผมเห็นความสั่นไหวในดวงตาของเขา วิปเปอร์ไม่ใช่คนที่จะแสดงความรู้สึกออกมาง่ายๆ
เขามันจะทำให้ตัวเองดูเข้มแข็งเสมอผิดกับผมที่ยอมแสดงออกมาทุกอย่าง
ที่วิปเปอร์ทำแบบนั้นก็เพื่อให้ผมรู้ว่าเขาสามารถปกป้องผมได้ตลอดไป
แต่พอถึงช่วงที่เขาสับสนทีไหร่ เขามักจะตีตัวออกห่างผมเสมอ
วิปเปอร์ใส่ใจผมทุกเวลา
ไม่เว้นแม้แต่ตอนที่สภาพจิตใจตัวเองไม่ครบร้อย และเพราะแบบนั้นผมถึงได้รักเขา
และเชื่อใจเขามากที่สุด ผมรู้หมดทั้งความคิด สีหน้า แววตา
รวมถึงความรู้สึกที่เขาซ่อนเอาไว้ บางครั้งถึงผมจะทำเหมือนไม่เข้าใจ
แต่ก็ไม่มีใครที่รู้จักเขาดีเท่าผมอีกแล้ว
“ผมขอโทษ...”
“จะขอโทษผมทำไม
ผมรู้หรอกว่าวิปเปอร์เป็นห่วงผม” ผมยิ้มให้เขายื่นมือไปลูบเรือนผมสีตะวันสวยแผ่วเบา
“ผมดีใจนะที่วิปเปอร์ใส่ใจผมมากขนาดนี้ แต่ผมก็ไม่อยากให้วิปเปอร์ฝืนตัวเองเหมือนกัน”
“นายน้อย...”
“เราเคยสัญญากันไว้แล้วว่าไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์เราจะอยู่ด้วยกัน” ผมดึงมือของเขามาแนบแก้มของผมไว้ สัมผัสอบอุ่นที่ไม่วันได้จากไหนทำให้ผมหลับตาลงน้อมรับสัมผัสนั้นด้วยความยินดี
“พอไม่มีวิปเปอร์ก็เหมือนว่าผมขาดความอบอุ่นไปเลย
ผมไม่ชอบแบบนั้นเลยฮะ ผมอยากให้วิปเปอร์อยู่กับผม”
“ถ้าอยู่ใกล้นายน้อยผมก็จะควบคุมตัวเองไม่ได้
และอาจทำร้าย...”
“ผมเชื่อใจวิปเปอร์นะ”
“อะ...”
“ผมเชื่อว่าวิปเปอร์จะไม่มีทางทำร้ายผม”
“…”
“และผมจะเชื่อตลอดไป”
จบประโยคนั้นผมก็เป็นฝ่ายโน้มใบหน้าเขาลงมาก่อนจะเชิดหน้าฝังริมฝีปากลงบนเรียวปากของเขา
มอบความอ่อนหวานที่ผมชอบแลกกับความรักทั้งหมดที่เรามีให้กัน วิปเปอร์โอนอ่อนตามผม
เขาจูบตอบกดริมฝีปากลงมาซ้ำๆ มือหนาไล้ไปตามร่างกายผม
ความอ่อนโยนคืนกลับมา
“ถะ...ถ้าผมทำให้นายน้อยเจ็บ
นายน้อยฆ่าผมได้เลยนะครับ” เขาว่าพลางกดจูบไปตามลำคอ ลาดไหล่
ไหปลาร้า ยาวมาถึงแผ่นอก ลดต่ำลงจนถึงช่วงหลัง
กดจูบแผ่วเบาที่กลางกายใต้ร่มผ้าของผม “ผมต้องหยุดตัวเองไม่ได้แน่ๆ
นายน้อยอภัยให้ผมด้วย”
“อะ...อื้อ” ผมขยุ้มเรือนผมสีสวยไว้ในมือแน่นเมื่อวิปเปอร์ปลดกางเกงผมออก แตะลิ้นลงตรงส่วนปลายขยับรูดรั้งภายใต้การควบคุมของเรียวปากของเขา
ร่างกายของผมเกร็งซ่านน้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
แรกเริ่มมันเป็นจังหวะเนิบนาบก่อนจะเปลี่ยนมารัวเร็วจนผมหายใจแทบไม่ทัน
วิปเปอร์โลมเลียส่วนนั้นดูดดุนกลั่นแกล้งผม
ขบกัดลงมาเบาๆเล่นเอาผมบิดเร่าอยู่ใต้ร่าง เขี้ยวขาวของเขาครูดไปตามตัวตนของผม
ผมสะท้านหอบครวญครางอย่างน่าอาย จิกปลายเท้าลงกับเตียงจนมันแทบขาด
“อ๊า !” พลันร่างกายผมก็สะท้านเร่าเมื่อปลายนิ้วยาวสอดเข้าทางรักด้านหลัง
วินาทีนั้นผมอึดอักเจ็บเสียดไปหมด ร่างกายดิ้นรนเหมือนจะกระถดตัวหนี
เราไม่ได้ทำกันมาเป็นอาทิตย์ ร่างกายผมมันต้องใช้เวลาในการปรับตัว “อื้อ อ๊ะ...อ๊า วิปเปอร์ มะ...มัน”
“อื้ม” ร่างสูงครางต่ำในลำคอ สอดนิ้วเข้าออกเบิกทางสลับกับดูดดุนแก่นกายของผม
หัวใจของผมเต้นกระหน่ำไม่เป็นส่ำ กายเล็กบิดซ่านไปตามความเสียว
ไม่นานนักผมก็ปลดปล่อยออกมา วิปเปอร์เก็บกลืนทุกหยาดหยดก่อนจะเลื่อนตัวมาคลอเคลียกับยอดอกผม
“อื้อ อ๊ะ อ๊า” จมูกคมซุกไซ้ไปตามอกแกร่ง ขบกัดยอดอกผมจนมันแดงเรื่อไปหมด
ลิ้นชื้นดุนดันหยอกล้อผมเล่นเอาผมต้องจิกเล็บลงกับหลังคอของเขา
วิปเปอร์ไม่เคยบ่นเวลาที่ได้แผลจากผมตอนเราทำเรื่องอย่างว่ากัน เขามักจะถนอมผมไม่ต่างจากไข่ในหิน
ถ้าจะมีคนที่ใส่ใจผมมากที่สุด
ก็เป็นเขานี่แหละ
“วะ...วิปเปอร์ อื้อ”
“นายน้อยผมทนไม่ไหวแล้ว”
“ดะ...เดี๋ยว...!”
ผมเบิกตากว้างความเจ็บแล่นผ่านไปทั่วร่างเมื่อร่างสูงดันร่างเข้ามาในช่องทางรัก
วินาทีนั้นผมรู้สึกเหมือนร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยง จุกจนร้องไม่ออก
น้ำตาผมเล็ดลอดไหลลงอาบหางตาทั้งสองข้าง
วิปเปอร์กัดฟันแน่นพยายามข่มอารมณ์ไม่ให้กระแทกเข้ามาแรงๆเพราะช่องทางคับแน่นบีบรัดตัวตนของเขาเอาไว้จนแทบขยับไม่ได้
ผมผ่อนลมหายใจพยายามอย่างมากที่จะผ่อนคลาย
แต่มันก็เป็นไปได้ยาก วิปเปอร์ดันทุรังดันร่างเข้ามาจนสุด เราสองคนหอบหนัก
เหงื่อกาฬไหลอาบไปทั่วร่าง วิปเปอร์ก้มลงมาบดขยี้ริมฝีปาก
แต่เหมือนว่าจะแรงไปเลยกัดเข้าที่ริมฝีปากล่างของผม
รสเค็มขมปร่าทำให้ผมนิ่วหน้านิดหน่อย
ร่างสูงเลยแลบลิ้นเลียส่วนที่บอบช้ำของผมเบาๆ มันแสบและเจ็บ
ถึงกระนั้นมันก็เต็มไปด้วยความรู้สึกดี
ปลอบประโลมผมได้ไม่นานเขาก็ผละออกไปยกขาข้างนึงของผมพาดบ่าแยกขาอีกข้างให้อ้าออกกว้างขึ้น
หัวใจผมเต้นรัวเร็วเมื่อเขาเริ่มเคลื่อนกายเข้าหา
“อ๊ะ อ๊า อ๊า” ผมครางกระเส่าสะท้านเร่าไม่ต่างจากคนที่ดิ้นรนจากความตาย
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเข้ามาในโสตประสาท ฟังดูหยาบโลนมาจนใบหน้าผมเห่อร้อนไปหมด
แรกเริ่มก็เนิบนาบให้ช่องทางลื่นไหล
พอปรับตัวได้วิปเปอร์ก็หยัดร่างเข้าหาผมรัวเร็ว “อ๊า !
อื้อ อ๊า !”
“นายน้อย...อื้อ !”
ผมส่ายหน้าไปมาเหมือนคนจับไข้ ทึ้งผ้าปูที่นอนให้ยับคามือ
ร่างสูงกระแทกกายเข้าออกอย่างโหยหาย ฝังร่างลงมาซ้ำๆเรียกเสียงครวญครางจากผม
วิปเปอร์พลิกร่างผมให้นอนคว่ำลงสอดประสานร่างลงมาอีกครั้ง
มือหนาเลื่อนมาขยี้ยอดอกผม กดจูบไปตามท้ายทอยชื้นเหงื่อ
ความเสียวเสียวทำให้ผมครางแทบบ้า
รู้สึกเหมือนน้ำตากำลังอาบไปทั่วแก้ม วิปเปอร์เขยิบร่างสอดลึกเข้ามาอีก
ยึดสะโพกผมไว้แน่นหยัดร่างเข้ามาแรงๆจนผมระบมไปทั่วช่วงล่าง
“ระ...แรงไป
บะ...เบาหน่อย บะ...เบาหน่อยฮะ วิปเปอร์ อื้อ”
“ผม แฮ่ก ก็อยากเบา”
“อ๊ะ อ๊า”
“แต่มันยั้งตัวเองไม่ได้เลย
อ่า” ร่างสูงครางต่ำอย่างพอใจ เรี่ยวแรงผมสูญหายแทบทั้งหมด
ต้นขาผมสั่นระริกแทบจะร่วงลง ดีที่วิปเปอร์จับมันไว้ ผมเลยฝังหน้าลงกับหมอน
ร้อนวูบวาบเหมือนโดนไฟเผา วิปเปอร์กระแทกกายรัวเร็วมาก บดขยี้ยอดอกผมซ้ำๆสร้างความปั่นป่วนไปหมด
งับ !
“อึก !” ผมนิ่วหน้าเจ็บสะอึกแทบจะทันทีที่วิปเปอร์กัดเข้าที่ท้ายทอยผม
เขาดึงร่างผมให้มานั่งตักกอดรัดจากด้านหลังโดยที่ร่างกายเรายังคงประสานกัน
กระแทกสวนขึ้นมาหนักๆให้ร่างกายผมถูกฟัดจนจมอก “วิป...วิปเปอร์
ผมเจ็บ”
“ขอโทษนะครับนายน้อย”
คำขอโทษที่มาพร้อมกับน้ำเสียงต้องการที่ดังขึ้นข้างหูทำให้ผมรู้สึกเสียววูบไปทั้งร่าง
ผมกำลังจะตายไปกับแรงหยัดร่างของเขา
ปลายนิ้วเรียวกดยอดอกผมตอบรับกับช่วงล่างที่เหมือนจะไม่มีวันหยุดลง “นายน้อย นายน้อย นายน้อย”
“อื้อ ชะ...ช้า” ผมหอบหายใจเหนื่อยโดนเขาบังคับให้หันไปจูบ
เรียวลิ้นชื้นโลมเลียกันอย่างหนัก น้ำลายเราไหลเยิ้มออกมา
วิปเปอร์ดูดซับเบาๆแล้วกลับมาจูบผมอีก
สัมผัสเร่าร้อนทำให้ผมถูกพลิกร่างให้หันเข้าหาเขา
วิปเปอร์สอดกายเข้ามาอีกครั้งกระแทกหนักๆสลับกับดูดดุนยอดอกผม
ผมกอดเขาไว้แน่นครวญครางไม่ต่างจากคนบ้า
ร่ายกายผมร้อนมาก ร้อนจนแทบจะหลอมละลายอยู่แล้ว
“อื้อ อ๊ะ อ๊า วิป
อ๊า วิปเปอร์”
“นายน้อย นายน้อย อึก”
“อ๊า !”ผมครางลั่นสุดเสียงเมื่อเขากระแทกสะโพกผมลงกับกายแกร่งของเขาก่อนจะปลดปล่อยเข้ามาในตัวผมเช่นเดียวกับผมที่ปลดปล่อยเลอะหน้าท้องของเขา
หยาดขาวขุ่นเหนียวเหนอะไปทั่วซอกขา
วิปเปอร์ดันร่างผมให้นอนราบพร้อมกระแทกเข้าออกอีกครั้งทั้งๆที่ผมเพิ่งจะเสร็จไป
ผมรั้งไหล่เขามากอด
จิกทึ้งลงบนแผ่นหลังเขาเป็นรอยเล็บความเสียดเสียดส่งผลให้ผมครางกระเส่า
ดิ้นเร่าจนแทบบ้า
“วิปเปอร์ อ๊า
วิปเปอร์” ราวกับเรี่ยงแรงเพิ่มขึ้น
วิปเปอร์หยัดร่างเข้าหาผมหนักหน่วง หนักกว่าเมื่อกี้หลายร้อยเท่า
บดขยี้ยอดอกสลับกับจูบผมไม่ยอมหยุด ร่างกายของเราประสานกันเป็นหนึ่งเดียว
เรียวลิ้นแลกกันไปมาเหมือนหิวกระหาย
วิปเปอร์ตอนนี้ไม่ต่างจากสัตว์ร้าย
สัญชาติญาณของเขามันดิบเถื่อนและเร่าร้อนที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอ
“นายน้อย อ๊ะ อา
บอกรักผมที” น้ำเสียงขาดห้วงที่มาพร้อมกับการกระทันร่างไม่ผ่อนแรงแสดงความอ้อนวอนออกมา
ผมพยายามใช้มือประคองใบหน้าเขาขณะที่ปากยังคงส่งเสียงครวญครางไม่หยุด
ผมเชิดหน้าขึ้นจูบริมฝีปากของเบาๆก่อนจะเค้นเสียงที่ไม่ใช่เสียงครางกระเส่าออกมา
“ผม อ๊ะ
ผมรักวิปเปอร์ อ๊า”
“นายน้อย”
“วิปเปอร์เป็นของนายน้อย” ผมยิ้มก่อนจะถูกเขาซ้ำริมฝีปากลงมาอีกครั้ง วิปเปอร์ไม่ได้บอกรักผม
แต่ผมก็รู้อยู่แล้วว่าเขารักผมมากแค่ไหน เขาจรดจมูกสูดดมไปทั่วกลิ่นกาย
ประทับร่องรอยไว้ให้ผมได้จดจำว่าผมเป็นของใคร
เขี้ยวขาวของเขาไม่ต่างจากแวมไพร์
ท้ายทอยผมยังคงเจ็บแสบไปหมด แต่เขาก็ปลอบประโลมผม
ผมจำไม่ได้ว่าเนิ่นนานเท่าไหร่ที่เราทำกัน
ผมรู้แค่ว่าผมได้ยินตัวเองบอกรักเขาซ้ำๆไม่ต่างจากคนโดนของที่มาพร้อมกับเสียงกระเส่าของตัวเอง
“อื้อ วิปเปอร์ !”
ผมหอบแฮ่กหมดแรงล้มตัวลงนอน ร่างสูงตามมาจูบปลอบไล้ตั้งแต่หน้าผาก
เปลือกตา จมูก แก้มทั้งสองข้าง สุดท้ายหยุดลงที่ริมฝีปาก “อื้ม”
“นายน้อย” ผมชอบคำที่เขาเรียกผมมาตลอด
คำว่านายน้อยไม่ได้ถูกพูดในฐานะสัตว์เลี้ยงหรือคนรับใช้
แต่ถูกพูดในฐานะคนที่ครอบครองหัวใจ “ผมรักนายน้อยนะ”
“อือ...”
“ผมจะไม่ตีตัวออกห่างจากนายน้อยอีกแล้ว”
“สัญญานะ” ผมสบตาเขาก่อนจะยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าเขา วิปเปอร์ชะงักนิดหน่อย
พลันเปลี่ยนมายิ้มให้ผม เขากดจูบลงบนนิ้วก้อยผม
จากนั้นก็ส่งนิ้วก้อยตัวเองมาเกี่ยวก้อยกับผม
วินาทีนั้นเหมือนผมถูกโอบล้อมด้วยไออุ่น
ผมถูกเขากอดไว้แน่นจนจมลงไปในอ้อมกอดของเขา
กลิ่นของวิปเปอร์
สัมผัสของวิปเปอร์
ผมรักมันทั้งหมด
“ผมสัญญาว่าผมจะอยู่กับนายน้อยตลอดไป
จะไม่หนีไปไหนอีกแล้วครับ”
อ่านต่อ+คอมเม้นได้ที่ - http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1038814&chapter=32
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น